14/3/54

Twilight แวมไพร์ ทไวไลท์

แวมไพร์ ทไวไลท์ ( Twilight)



แวมไพร์ ทไวไลท์ ( Twilight) เป็นภาพยนตร์อเมริกันปี พ.ศ. 2551 ซึ่งในส่วนของนิยาย Twilight ภาษาไทยก็ใช้ชื่อว่า  แรกรัติกาล เป็นงานเขียนของสเตเฟนี   เมเยอร์



ตัวละคร

  • เอ็ดเวิร์ด คัลเลน - แวมไพร์หนุ่มผู้เพียบพร้อม มีเสน่ห์ต่อสาวๆ ทุกคน มีความสามารถในการอ่านใจ และสามารถสะกดจิตได้โดยสายตา ครั้งเป็นมนุษย์กำลังจะตายด้วยไข้หวัดใหญ่สเปน คาร์ไลล์จึงช่วยไว้โดยเปลี่ยนเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์
  • เบลล่า สวอน - เด็กสาวที่ย้ายมาจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซน่า ไม่ธรรมดาเพราะมีความสามารถในการสกัดใจโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
  • ชาร์ลี สวอน - พ่อของเบลล่า เป็นสารวัตเมืองฟอร์คส
  • เรเน่ - แม่ของเบลล่า เกลียดอากาศที่หนาวเย็นฝนตกเฉอะแฉะ จึงเลิกกับชาร์ลีไปแต่งงานใหม่
  • ฟิล - สามีใหม่เรเน่
  • เจมส์ - ศัตรูของเอ็ดเวิร์ด มีความสามารถในเรื่องสามารถตามหาบุคคลที่ต้องการจะเจอได้
  • วิคตอเรีย - ศัตรูของเอ็ดเวิร์ด คู่รักของเจมส์
  • ลอเรนท์ - ศัตรูของเอ็ดเวิร์ด พอมีด้านดีอยู่ในตัวบ้าง
  • เอสเม่ คัลเลน - แม่บุญธรรมของเอ็ดเวิร์ด มีความสามารถที่จะมอบความรักให้แก่บุคคลรอบข้าง
  • ดร.คาร์ไลล์ คัลเลน - พ่อบุญธรรมของเอ็ดเวิร์ด มีความเมตตา เป็นคนที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดกลายเป็นแวมไพร์
  • เอ็มเม็ตต์ คัลเลน - พี่ชายเอ็ดเวิร์ด มีพละกำลังมหาศาล
  • โรซาลี เฮล - พี่สาว (พี่สะใภ้) เอ็ดเวิร์ด คู่รักเอ็มเม็ตต์ แฝดผมทองแจสเปอร์
  • อลิซ คัลเลน - น้องสาวเอ็ดเวิร์ด มีความสามารถในการมองเห็นอนาคต แต่ความสามารถไม่ตายตัว เพราะอนาคตเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
  • แจสเปอร์ เฮล - คู่รักอลิซ แฝดผมทองโรซาลี เพิ่งเลิกดื่มเลือดมนุษย์ มีความรู้ด้านอุปนิสัยของแวมไพร์เกิดใหม่
  • เจคอบ แบล็ค - มนุษย์หมาป่า เป็นศัตรูกับเผ่าพันธุ์แวมไพร์ หลงรักเบลล่า
  • บิลลี่ แบล็ค - พ่อของเจคอบ เพื่อนชาร์ลี ไม่ถูกกับพวกคัลเลนเพราะเป็นเผ่าพันธุ์ศัตรู
  • ไมค์ นิวตัน - เพื่อนเบลล่า แอบชอบเบลล่า เคยชวนเบลล่าไปงานพร็อมแต่เบลล่าปฏิเสธเพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจเจสสิก้า
  • เจสสิก้า แสตนลีย์ - เพื่อนเบลล่า แอบชอบไมค์ นิวตัน
  • เอริค - เพื่อนเบลล่า
  • แองเจล่า เวเบอร์ - เพื่อนเบลล่า

งานสร้าง

ขั้นพัฒนา

นิยายของสเตเฟนี เมเยอร์ เรื่อง แรกรัตติกาล ได้รับความสนใจจากเอ็มทีวีฟิล์มสในเครือพาราเมาท์พิกเจอร์ส ตั้งแต่เดือนเมษายน 2004 แต่บทภาพยนตร์และการพัฒนาบทค่อนข้างแตกต่างไปจากต้นฉบับ ทำให้เมเยอร์ไม่ตกลงที่จะทำ อย่างเช่นเบลล่าจะมีกล้องส่องในความมืดเป็นอุปกรณ์ และเธอยังเป็นนักวิ่งลมกรดสุดฮ็อตประจำโรงเรียน แต่นิยายเขียนไว้ว่า ความสามารถทางด้านกีฬาของเธอต่ำ เป็นต้น ต่อมาซัมมิตเอนเตอร์เทนเมนต์เข้ามาติดต่อหาเมเยอร์ และเริ่มพัฒนาบทในเดือนเมษายน 2007 ทางบริษัทเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้ออกสินค้าที่ เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ จากการประสบความสำเร็จของนิยายและในภาคต่อ ในฤดูร้อนปีเดียวกัน แคเธอรีน ฮาร์ดวิกได้รับการว่าจ้างให้มากำกับภาพยนตร์และเมลิซซา โรเซนเบิร์กมาเขียนบท
โรเซนเบิร์กพัฒนาโครงเรื่องเสร็จในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และร่วมกับฮาร์ดวิกในการเขียนบทภาพยนตร์ในเดือนถัดมา แต่เนื่องจากการประท้วงของกลุ่มนักเขียนในอเมริกาที่ใกล้จะเข้ามาถึงทำให้โร เซนเบิร์กทำงานเต็มเวลาในการเขียนบทภาพยนตร์ให้เสร็จก่อน 31 ตุลาคม ในการดัดแปลงนิยายเรื่องนี้ ฮาร์ดวิกก็ยอมรับว่าถึงแม้จะพยายามซื่อตรงต่อต้นฉบับเพียงใด ก็ไม่สามารถถ่ายทอดทุกอย่างที่อยู่ในหนังสือลงบนแผ่นฟิล์มได้หมด บางตัวละครในบทประพันธ์ไม่ปรากฏในบทภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างเช่น ลอเรน มัลลอรี เพื่อนร่วมชั้นของเบลล่า
ฮาร์ดวิกได้ใช้การเล่าเรื่องจากมุมมองของเบลลา โดยใช้เสียงวอยซ์โอเวอร์ของนางเอกและเธอยังได้เขียนสตอรีบอร์ดตั้งแต่ขึ้นพรี-โปรดักชันอีกด้วย


การคัดเลือกนักแสดง

ฮาร์ดวิกได้เยี่ยมกองถ่ายทำอย่างไม่เป็นทางการในเรื่อง Adventureland ขณะที่คริสเตน สจ๊วตกำลังเข้าฉาก โดยเธอได้ทำการทดสอบบทซึ่งก็ทำให้ผู้กำกับหลงใหลในตัวเธอ ในเริ่มแรกฮาร์ดวิกไม่ได้จะเลือกโรเบิร์ต แพตตินสันให้รับบทเอ็ดเวิร์ด คูลเลน แต่หลังจากที่มาร่วมทดสอบบทที่บ้านของเธอ โดยเข้าบทเลิฟซีนกับสจ๊วตที่เตียงบ้านฮาร์ดวิก ก็ทำให้เขาตัดสินใจเลือกแพตตินสัน ตัวแพตตินสันเองไม่รู้จักนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแต่หลังจากนั้นก็เอาหนังสือมาอ่าน เมเยอร์ยังอนุญาตให้เขาเห็นต้นฉบับที่ยังไม่เสร็จของ Midnight Sun ที่เป็นเหตุการณ์ในเรื่องจากมุมมองของเอ็ดเวิร์ด กระแสตอบรับของแฟนนิยายเมื่อรู้ว่าแพตตินสันมารับบทเป็นเอ็ดเวิร์ดในตอนแรก เป็นในทางต่อต้าน เมเยอร์กล่าวว่าเธอมีภาพเอ็ดเวิร์ดและเบลลาในหัวอยู่ชัดเจนมาก และยังกล่าวติดตลกว่า แต่พอเห็นคนที่มารับบทโดยเฉพาะโรเบิร์ต แพตตินสัน นั้นมันยากที่จะหาใครมารับบทนี้ และไม่แน่ใจว่าจะออกมาอย่างไร แต่พอเห็นรูปแพตตินสันแล้ว เขาก็พอรับเอ็ดเวิร์ดได้ เพราะพอจะดูมีอะไรเป็นแวมไพร์ได้

การถ่ายทำและขั้นตอนหลังการถ่ายทำ

การถ่ายภาพส่วนใหญ่ใช้เวลา 44 วัน หลังจากการซ้อมมากกว่า 1 สัปดาห์ จนเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2008เช่นเดียวกับผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของฮาร์ดวิกเรื่อง thirteen ใช้กล้องแบบกล้องแบบมือถือถ่าย เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนจริง เมเยอร์ผู้เขียนนิยายได้เข้ามาร่วมกองถ่าย 3 ครั้ง และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องสิ่งที่แตกต่างไปของเนื้อเรื่องเธอยังได้มีบทเล็ก ๆ ในภาพยนตร์ นักแสดงที่แสดงเป็นแวมไพร์ได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดดเพื่อให้มีสีผิว ซีด และยังมีเมคอัพบ้าง และใส่คอนแทคเลนส์ ส่วนตาของครอบครัวคูลเลนใส่ตาสีทอง และเมื่อโกรธจะใส่สีแดง พวกเขายังได้ร่วมซ้อมกับนักเต้นและไปสังเกตการเคลื่อนไหวของเสือดาวเพื่อให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูสง่างาม
การถ่ายทำส่วนใหญ่ ถ่ายทำในพอร์ตแลนด์ รัฐโอรีกอน และตัวละครส่วนใหญ่แสดงบทเสี่ยงด้วยตัวเองในฉากในห้องบัลเล่ต์ระหว่างไจกันเดต์และแพตตินสัน ถ่ายทำในสัปดาห์แรกของการถ่ายทำ ที่มีการใช้สายสลิงจำนวนมาก เพราะเป็นการแสดงเรื่องที่แวมไพร์เป็นยอดมนุษย์ที่ทั้งพละกำลังและความเร็ว
แทนที่จะถ่ายทำที่โรงเรียนฟอร์กสไฮสคูล แต่ได้ไปถ่ายทำที่คาลามาไฮสคูล และเมดิสันไฮสคูลและฉากอื่นถ่ายทำที่ St. Helens ในโอรีกอนและฮาร์ดวิกถ่ายทำบางฉากใหม่ที่พาซาดีนา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในเดือนสิงหาคม

ดนตรี

เพลงบรรเลงประกอบเรื่องนี้ประพันธ์โดย คาร์เตอร์ เบอร์เวลล์ และส่วนที่เหลือของเพลงประกอบเลือกโดยอเล็กซานดรา แพ็ตซาวาส เมเยอร์แนะนำเรื่องเพลงประกอลให้ใช้เพลงอย่างของวง มิวส์ ,ลินคิน พาร์ก วงที่เธอฟังขณะเขียนบทประพันธ์ อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ออกขายเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน โดยช็อปช็อปเรกคอร์ดส ในเครือแอตแลนติกเรคคอร์ด อัลบั้มเข้าอันดับ 1 ในสัปดาห์แรกของชาร์ทบิลบอร์ด 200 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน


twilight 4 Breaking Dawn รุ่งอรุโณทัย

  twilight 4   Breaking Dawn  รุ่งอรุโณทัย


รุ่งอรุโณทัย แบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน ส่วนแรกเป็นรายละเอียดงานแต่งงานและดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของเบลล่าและเอ็ด เวิร์ด ซึ่งใช้เวลาส่วนมากบนเกาะส่วนตัวริมชายฝั่งของประเทศบราซิล เอ็ดเวิร์ดยินยอมมีสัมพันธ์รักตาม ความปรารถนาของเบลล่า หลังจากนั้นเบลล่าพบว่าเธอตั้งท้องและอัตราการเติบโตของเด็กรวดเร็วผิดปกติ หลังจากติดต่อกับคาร์ไลล์เพื่อยืนยันว่าเธอท้อง เบลล่าและเอ็ดเวิร์ดได้รีบกลับบ้านที่ฟอร์กส วอชิงตันโดย ทันที เอ็ดเวิร์ดกังวลมากเกี่ยวกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตัวอ่อนในครรภ์และต้อง การให้เบลล่าทำแท้ง แต่เธอต้องการเก็บเด็กไว้และได้ติดต่อโรซาลีเพื่อให้เธอสนับสนุนเพราะรู้ว่า โรซาลีนั้นต้องการมีลูกเหมือนกัน

ในส่วนที่สองเขียนในมุมมองของเจคอบ หลังจากที่รู้ว่าเบลล่าท้อง ฝูงหมาป่าแห่งควิลยูตไม่รู้ว่าจะมีอันตรายแค่ไหนจึงวางแผนที่จะทำลายมันแม้ ว่ามันจะหมายถึงการฆ่าเบลล่าไปด้วยก็ตาม เจคอบได้คัดค้านการตัดสินใจนี้อย่างรุนแรงและได้แยกตัวออกจากฝูง และได้สร้างฝูงของเขาเองโดยมีลีอาห์และเซ็ทเป็นลูกฝูง ขณะที่ใกล้กำหนดคลอดเด็กได้หักกระดูกเบลล่าไปหลายท่อนและยังเสียเลือดไปมาก ในระหว่างคลอด เพื่อรักษาชีวิตเธอไว้ทำให้เอ็ดเวิร์ดต้องเปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์ เจคอบซึ่งได้อยู่ด้วยในขณะคลอดได้"ผูกวิญญาณ"กับลูกสาวแรกเกิดของเอ็ดเวิร์ด และเบลล่า เรเนสเม่
ในส่วนที่สามของ รุ่งอรุโณทัย กลับมาเขียนในมุมมองของเบลล่า หลังจากกลายเป็นแวมไพร์ เบลล่าได้พอใจในชีวิตและความสามารถใหม่ของเธอมาก อย่างไรก็ตาม แวมไพร์อิริน่าได่เข้าใจผิดว่าเรเนสเม่เป็น "เด็กอมตะ" เด็กที่ถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ และเนื่องจากเด็กอมตะไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้การสร้างเด็กอมตะเป็นเรื่องผิดกฎของโวลตูรี หลังจากอิริน่าได้แจ้งโวตูรี พวกเขามีแผนที่จะทำลายเรเนสเม่และครอบครัวคัลเลน ในความพยายามช่วยชีวิตเรเนสเม่


ครอบครัวคัลเลนได้รวบรวมแวมไพร์ทั่วโลกเพื่อมาเป็นพยานและพิสูจน์กับพวกโวตู ลีว่าเรเนสเม่ไม่ใช่เด็กอมตะ เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวคัลเลนและพันธมิตร โวตูลีพบว่าเป็นการเข้าใจผิดและได้ลงโทษอิริน่าจากความผิดนั้น แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเรเนสเม่จะเป็นภัยคุกคามกับการรักษาความลับใน เรื่องการคงอยู่ของแวมไพร์หรือไม่ ในเวลานั้นอลิซและแจสเปอร์ที่จากไปก่อนการเผชิญหน้าได้กลับมาพร้อมนาฮูล ลูกครึ่งแวมไพร์-มนุษย์อายุ 150 ปีเหมือนกับเรเนสเม่ เขาช่วยคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้และชี้แจงว่าพวกลูกครึ่งนั้นไม่เป็น ภัยคุกคาม โวตูลีจึงจากไป เบลล่า,เอ็ดเวิร์ด และเรเนสเม่ได้กลับบ้านและอาศัยอยู่ด้วยความสงบสุข


Twilight 3 eclipse


Twilight 3 eclipse
 
 
 

เปิดเรื่องมาด้วยฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองซีแอตเติลที่ยังตามจับฆาตกรไม่ได้ ซึ่งเอ็ดเวิร์ดสงสัยว่าเกิดจากแวมไพร์อายุ น้อยที่ยังควบคุมความกระหายไว้ไม่ได้ ขณะที่เอ็ดเวิร์ดและเบลล่าได้สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เบลล่าได้บอกเอ็ดเวิร์ดว่าเธอต้องการจะพบเจคอบ แบล็ค เพื่อนมนุษย์หมาป่าของ เธอ แม้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นห่วงความปลอยภัยของเบลล่า เธอก็ยังยืนกรานว่าเจคอบและฝูงหมาป่าของเขาไม่มีทางทำอันตรายเธอและเธอยัง แอบไปพบเจคอบในบางครั้ง 

ขณะที่อลิซ คัลเลนได้มองเห็นอนาคตว่าวิคตอเรีย แวมไพร์ที่ต้องการแก้แค้นเบลล่าได้กลับมาที่ฟอร์กสแล้ว สองสามวันหลังจากนั้น เอ็ดเวิร์ดเสนอกับเบลล่าว่าให้แต่งงานกันก่อนที่จะทำให้เธอกลายเป็นแวมไพร์ เบลล่าตกลงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบก็ตาม
เบลล่าและครอบครัวคัลเลนได้พบว่าฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองซีแอตเติลนั้น แท้จริงเกิดจากกองทัพแวมไพร์แรกเกิดที่ควบคุมโดยวิคตอเรีย ทำให้ครอบครัวคัลเลนต้องร่วมมือกับฝูงหมาป่าแห่งควิลยูตเพื่อต่อสู้กับความ คุกคามนี้ ขณะที่ทุกคนเตรียมจะต่อสู้ เอ็ดเวิร์ด, เบลล่า และ เจคอบได้เดินทางไปพักแรมในภูเขาเพื่อซ่อนตัวจากการต่อสู้


ในตอนเข้า เจคอบอารมณ์เสียเมื่อได้ยินเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าคุยกันถึงการต่อสู้และต้อง การเข้าร่วมในการต่อสู้นั้น เพื่อหยุดเขาเบลล่าได้จูบเจคอบและรู้ความจริงว่าเธอรักเขา ในระหว่างการต่อสู้ วิคตอเรียได้ตามกลิ่นเอ็ดเวิร์ดจนมาถึงที่ซ่อนตัวของเบลล่า ทำให้เอ็ดเวิร์ดต้องต่อสู้กับเธอ หลังจากวิคตอเรียและกองทัพของเธอถูกทำลาย เธออธิบายกับเจคอบว่าถึงเธอจะรักเขาแต่เธอนั้นรักเอ็ดเวิร์ดมากกว่า และหลังจากได้ยินเรื่องแต่งงาน เจคอบได้กลายร่างเป็นหมาป่าแล้ววิ่งหนีไปเพื่อหลีกหนีจากความเจ็บปวดและโกรธ เบลล่าที่ตัดสินใจเป็นแวมไพร์



twilight 2  newmoon
 
 



เรื่อง

อิซซาเบลลา "เบลล่า" สวอน อายุ 18 ปีแล้ว อลิซ คัลเลนและเอ็ดเวิร์ด คัลเลน คน(แวมไพร์)รัก ของเธอได้จัดงานวันเกิดให้ ขณะที่เปิดห่อของขวัญ เธอเกิดโดนกระดาษบาด พี่ชายของเอ็ดเวิร์ด แจสเปอร์ เฮล ไม่สามารถทนความยั่วยวนของกลิ่นเลือดเธอได้ทำให้เขาได้โจมตีเธอ จากเหตุการณ์นั้น เพื่อปกป้องเบลล่าจากแวมไพร์ เอ็ดเวิร์ดจึงจบความสัมพันธ์กับเธอ เขาและครอบครัวจึงย้ายออกไปจากฟอร์กส วอชิงตัน เบลล่าโศกเศร้าอย่างมากเป็นเวลาหลายเดือน โดยมีเจคอบ แบล็คคอยปลอบโยนเพื่อให้เธอลืมความเจ็บปวดจากการสูญเสียเอ็ดเวิร์ด
เบลล่าและเจคอบพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด เธอพบว่าเมื่อเธออยู่ในอันตราย เธอจะได้ยินเสียงของเอ็ดเวิร์ดในหัว ทำให้เธอยิ่งทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เธอก็ได้รู้ว่าเจคอบเป็นมนุษย์หมาป่า วันหนึ่งเจคอบและฝูงหมาป่าของเขาได้ช่วยเบลล่าจากแวมไพร์ลอเรนท์และวิคตอ เรีย ที่ต้องการแก้แค้นให้กับเจมส์คู่ของเธอที่ถูกฆ่าโดยครอบครัวคัลเลนใน แรกรัตติกาล


ความเข้าใจผิดทำให้เอ็ดเวิร์ดเข้าใจว่าเบลล่าฆ่าตัวตาย ด้วยความคลุ้มคลั่งเอ็ดเวิร์ดจึงไปอิตาลีเพื่อ แหย่โวลตูลี(ตระกลูแวมไพร์ที่รักษากฎของแวมไพร์)ให้โกรธเพื่อจะได้ฆ่าเขาซะ เบลล่าและอลิซได้รีบเดินทางไปอิตาลีเพื่อหยุดเอ็ดเวิร์ด และไปถึงทันเวลาพอดี ก่อนออกจากอิตาลี โวลตูลีบอกพวกเขาว่าเบลล่าที่รู้เรื่องแวมไพร์นั้นต้องตายหรือไม่ก็ต้องกลาย เป็นแวมไพร์ เมื่อกลับมาถึงฟอร์กส เอ็ดเวิร์ดบอกเบลล่าว่าที่เขาจากไปเพราะเขารักเธอและต้องการปกป้องเธอ เบลล่ายกโทษให้เขา ในตอนจบครอบครัวคัลเลนออกเสียงให้เปลี่ยนเบลล่าเป็นแวมไพร์หลังเธอเรียนจบ มัธยมปลาย ขณะที่เอ็ดเวิร์ดคัดค้านอย่างเต็ม
ที่



Twilight 1

ถ้าคุณมีชีวิตที่เป็นอมตะ คุณจะอยู่ไปเพื่ออะไร?

 
ชีวิตของเบลล่า สวาน (คริสเทน สจ๊วต) ดู จะต่างจากสาวในรุ่นเดียวกันกับเธอ เธอไม่เคยสนใจวัตถุภายนอก และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในโรงเรียนมัธยมที่ฟินิกซ์ แต่เมื่อแม่ของเธอตัดสินใจที่จะแต่งงานใหม่ และต้องย้ายไปอยู่กับสามีที่ฟลอริด้า เธอจึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่กับพ่อ (บิลลี่ เบิร์ค) ที่เมืองฟอร์ค รัฐวอชิงตัน เธอไม่เคยคิดเลยว่า การย้ายครั้งนี้จะแตกต่างจากที่แล้วๆ มา แต่แล้วเธอก็พบกับ เด็กหนุ่มรูปงามที่ชื่อ เอ็ดเวิร์ด คัลเลน (โรเบิร์ต แพ๊ตทินสัน) ผู้ที่ทั้งมีความฉลาดและไหวพริบเป็นเลิศ เขาไม่เหมือนผู้ชายที่เธอเคยรู้จักมาก่อน และเธอก็รู้สึกว่าดวงตาของเขาสามารถมองทะลุได้ถึงในดวงใจเธอเลยทีเดียว
และแล้วความรักที่ไม่ธรรมดาของคนทั้งสองก็เริ่มเบ่งบาน และที่ไม่ธรรมดนั้นก็เป็นเพราะว่า เอ็ดเวิร์ดเป็นมนุษย์ที่สามารถวิ่งได้เร็วกว่าเสือชีตาร์ เขาสามารถหยุดรถได้ด้วยมือเปล่า และอายุของเขาก็ไม่เพิ่มขึ้นเลยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 ใช่แล้วเขาคือแวมไพร์ และก็เหมือนกับแวมไพร์ทั่วไป "เขาเป็นอมตะ" เพียงแต่ว่า เขาไม่มีเขี้ยวและไม่ดื่มเลือดมนุษย์ดังเช่นแวมไพร์ตัวอื่นๆ ซึ่งการดำรงชีวิตของเขานั้นก็อยู่ได้ด้วยการล่าหมี หรือล่าสิงโตภูเขาในป่าลึกเท่านั้น
สำหรับเอ็ดเวิร์ดแล้ว เบลล่าคือหญิงสาวที่เขารอคอยมากว่า 90 ปี เธอเปรียบเสมือน "คู่แท้" ของเขา แต่ยิ่งเขาอยู่ใกล้เธอมากเท่าไใด สัญชาตญาณดิบของเผ่าพันธ์แวมไพร์ ที่มีต่อเหยื่อซึ่งก็คือมนุษย์ ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น และเรื่องมันก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อศัตรูคู่อาฆาตของเอ็ดเวิร์ดที่มีทั้ง เจมส์ (แคม จิแกนเด็ท) โลรอง (อีดี้ กาเทกี้) และวิคตอเรีย (ราเชล เลอเฟอริม) ก็ได้เดินทางมาถึงเมืองที่เขาอยู่ ก็ลองดูสิว่ารักแท้ จะสามารถกุมชัยชนะให้เหนือทุกสิ่งได้หรือไม่ หรืว่ามันจะจบลงแบบโศกนาฎกรรมดังเช่นเรื่อง "โรมิโอ" และ "จูเลียต " 

ก้าวทันลกศึกษา 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

กฎหมายแพ่ง
 
 
 

กฎหมายแพ่ง คือ กฎหมายว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของบุคคล เช่น เรื่องสภาพบุคคล ทรัพย์ หนี้ นิติกรรม ครอบครัว และมรดก เป็นต้น การกระทำผิดทางแพ่ง ถือว่าเป็นการละเมิดต่อบุคคลที่เสียหายโดยเฉพาะไม่ทำให้ประชาชนทั่วไปเดือด ร้อนอย่างการกระทำผิดอาญา            

กฎหมายพาณิชย์  คือ กฎหมายว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของบุคคล อันเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเศรษฐกิจและการค้า โดยวางระเบียบเกี่ยวพันทางการค้าหรือธุรกิจระหว่างบุคคล เช่น การตั้งหุ้นส่วนบริษัท การประกอบการรับขน และเรื่องเกี่ยวกับตั๋วเงิน (เช่น เช็ค) กฎหมายว่าด้วยการซื้อขาย การเช่าทรัพย์ การจำนอง การจำนำ เป็นต้น            

ในปัจจุบันกฎหมายแพ่งและกฎหมายพาณิชย์ของประเทศไทย ได้บัญญัติรวมเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน เรียกชื่อว่า "ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์" แบ่งออกเป็น 6 บรรพ คือ บรรพ 1 ว่าด้วยหลักทั่วไป บรรพ 2 ว่าด้วยหนี้ บรรพ 3 ว่าด้วยเอกเทศสัญญา บรรพ 4 ว่าด้วยทรัพย์สิน บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัวและบรรพ 6 ว่าด้วยมรดก            

เหตุที่ประเทศไทยมีการจัดทำประมวลกฎหมายโดยการนำเอากฎหมายแพ่งมา รวมกับกฎหมายพาณิชย์เป็นฉบับเดียวคล้ายกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยไม่ได้แยกเป็นประมวลกฎหมายแพ่งเล่มหนึ่งและประมวลกฎหมายพาณิชย์อีกเล่ม หนึ่งดังเช่นประเทศเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เพราะการค้าพาณิชย์ในขณะที่ร่างกฎหมายยังไม่เจริญก้าวหน้า อีกทั้ง หลักทั่วไปบางอย่างในกฎหมายแพ่งก็สามารถนำไปใช้กับกฎหมายพาณิชย์ได้ ความจำเป็นที่จะต้องแยกกฎหมายพาณิชย์ออกจากกฎหมายแพ่งโดยจัด

กฎหมายอาญา




กฎหมายอาญา คือ กฎหมายที่ว่าด้วยความผิดและโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิด ตัวบทที่สำคัญๆ ของกฎหมายอาญาก็คือ ประมวลกฎหมายอาญา นอกจากประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีพระราชบัญญัติอื่นๆที่กำหนดโทษทางอาญาสำหรับการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินั้น เช่น พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พระราชบัญญัติการพนัน เป็นต้น
                ทุกสังคมย่อมมีกฎเกณฑ์ ข้อบังคับความประพฤติของสมาชิกในสังคมนั้นๆ บุคคลใดมีการกระทำที่มีผลกระทบกระเทือนต่อสังคมหรือคนส่วนใหญ่ จัดเป็นการกระทำความผิดทางอาญา ดังนั้นกฎหมายอาญาจึงเป็นกฎหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการป้องกันสังคม เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยการกำหนดว่า การกระทำใดเป็นความผิดอาญาและได้กำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืน กระทำความผิดนั้นๆ




ข้อแตกต่างระหว่างกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง
 
 
 
 
หลายครั้งที่มักจะได้ยินคำถามว่า คดีไหนคือกฎหมายแพ่ง คดีไหนคือกฎหมายอาญา จะมีคำตอบที่เข้าใจง่ายๆ คือ กฎหมายอาญา ก็มีลักษณะที่เป็นอาชญา ที่ลงโทษผู้ที่ทำผิดที่มุ่งร้ายต่อชีวิต และทรัพย์สินซึ่งโทษพวกนี้มักจะมีการลงโทษให้จำคุก ต้องขังกันไปเช่นฆ่าคนตาย ข่มขืน พรากผู้เยาว์ ค้ายาเสพติด เป็นต้นส่วน กฎหมายแพ่งและพานิชย์ มักจะเป็นกฎหมายควบคุมผู้กระทำผิดที่มุ่งหวังทรัพย์สิน และศักดิ์ศรีของผู้อื่น บทลงโทษของกฎหมายแพ่งจึงมักจะเป็นการเรียกปรับ หรือสั่งให้ชดเชยค่าเสียหายให้แก่เจ้าทุกข์เป็นหลัก จะไม่มีการระวางโทษคุมขังจองจำ คดีแพ่งได้แก่ การยืมทรัพย์ ฉ้อโกง หลอกลวง มรดก เป็นต้นทีนี้ ถ้าจะแยกดูก็จะเห็นข้อแตกต่างของกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา ดังนี้
ความผิดทางอาญาเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลเสียหาย หรือเกิดความหวาดหวั่นคร้ามแก่บุคคลทั่วไป ความผิดทางอาญาส่วนใหญ่จึงถือว่าเป็นความผิดต่อแผ่นดินหรือประชาชนทั่วไป
ส่วนความผิดทางแพ่งเป็นเรื่องระหว่างเอกชนต่อเอกชนด้วยกัน ไม่มีผลเสียหายต่อสังคมแต่อย่างใด
กฎหมาย อาญานั้นมีวัตถุประสงค์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิด ฉะนั้น หากผู้ทำผิดตายลง การสืบสวนสอบสวน การฟ้องร้อง หรือการลงโทษก็เป็นอันระงับลงไป
ส่วน ความผิดทางแพ่งเป็นเรื่องการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายซึ่งเป็นเรื่อง เกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล ดังนั้น เมื่อผู้กระทำผิดหรือผู้ละเมิดตายลง ผู้เสียหายย่อมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่าง ๆ จากกองมรดกของผู้กระทำผิดหรือผู้ละเมิดได้ เว้นแต่จะเป็นหนี้เฉพาะตัวเช่น แดงจ้างดำวาดรูป ต่อมาดำตายลง ถือว่าหนี้ระงับลงความ รับผิดทางอาญาถือเจตนาเป็นใหญ่ในการกำหนดโทษ เนื่องจากการกระทำผิดดังที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 บัญญัติว่า “บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำ โดยไม่มีเจตนา...”
ส่วนความรับผิดทางแพ่งนั้น ไม่ว่ากระทำโดยเจตนาหรือประมาทผู้กระทำก็ต้องรับผิดทั้งนั้นกฎหมายอาญาต้องตีความโดยเคร่งครัด ถ้าไม่มีกฎหมายย่อมไม่มีความผิดและไม่มีโทษ เพราะกฎหมายอาญามีโทษรุนแรงแต่ กฎหมายแพ่ง หลักเรื่องตีความโดยเคร่งครัดไม่มี กฎหมายแพ่งต้องตีความตามตัวอักษรหรือตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติแห่งกฎหมาย นั้น ๆ ดังนั้น การที่จะเป้นความผิดทางแพ่งนั้น ศาลอาจตีความขยายได้ความรับผิดทางอาญานั้น โทษที่จะลงแก่ตัวผู้กระทำผิดถึงโทษประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ ริบทรัพย์สินส่วนทางกฎหมายแพ่งนั้นไม่มีโทษ เป็นเพียงถูกบังคับให้ชำระหนี้หรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความ ผิดทางอาญาส่วนใหญ่ไม่อาจยอมความได้ เว้นแต่ความผิดต่อส่วนตัวหรือที่กฎหมายอาญาบัญญัติไว้ ความผิดอันยอมความได้เช่น ความผิดฐานหมิ่นประมาท ความผิดฐานยักยอก เป็นต้น เหตุผลก็คือ ความผิดทางอาญาถือว่าทำความเสียหายให้แก่มหาชน ทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง ผู้เสียหายจึงไม่อาจยกเว้นความรับผิดให้ได้
ส่วนความผิดทางแพ่ง ผู้เสียหายอาจยกเว้นความรับผิดให้ได้โดยไม่นำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาล หรือเรียกร้องหนี้สินแต่อย่างใดเลยความ ผิดในทางอาญา บุคคลที่ร่วมกระทำผิดอาจมีความรับผิดมากน้อยต่างกันตามลักษณะของการเข้าร่วม เช่น ถ้าเป็นผู้ลงมือกระทำผิดก็ถือเป็นตัวการ ถ้าเพียงแต่ยุยงหรือช่วยเหลือก็อาจผิดเพียงฐานะผู้สนับสนุนส่วน ความผิดทางแพ่ง ผู้ที่ร่วมกันก่อหนี้ร่วมกันทำผิดสัญญาหรือร่วมกันทำละเมิดตลอดทั้งยุยงหรือ ช่วยเหลือ จะต้องร่วมกับรับผิดต่อเจ้าหนี้หรือผู้ได้รับความเสียหายเหมือนกันหมดความ รับผิดทางอาญา การลงโทษผู้กระทำผิดก็เพื่อที่จะบำบัดความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ชุมชนเป็น ส่วนรวม เพื่อให้ผู้กระทำผิดเกิดความหลาบจำและกลับตัวกลับใจเป็นคนดี อีกทั้งเพื่อป้องกันผู้อื่นมิให้เอาเยี่ยงอย่างส่วน ความรับผิดทางแพ่ง กฎหมายมีวัตถุประสงค์ที่จะบำบัดความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เอกชนคนหนึ่งคนใด โดยเฉพาะ ซึ่งอาจได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน ความเสียหายได้เกิดขึ้นอย่างใด กฎหมายก็ต้องการที่จะให้เขาได้รับการชดใช้ในความเสียหายอย่างนั้น ถ้าทำให้คืนสภาพเดิมไม่ได้ก็พยายามจะให้ใกล้เคียงมากที่สุดแต่ไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร จะผิดทางแพ่ง หรือผิดทางอาญา เชื่อว่า..ไม่มีใครอยากมีคดีความ ไม่ว่าจะแพ่งหรืออาญาก็ตาม